ราคาทองพุ่งแตะ $3,450 ใกล้จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์
ราคาทองพุ่งแตะ $3,450 รับแรงซื้อจากสงครามตะวันออกกลาง–เงินเฟ้อ ธนาคารกลางเข้าซื้อต่อเนื่อง Goldman Sachs คาดแตะ $3,700 ส่วน BofA ชี้มีโอกาสเห็น $4,000
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp&w=1024&resize=1024,0&ssl=1)
ราคาทองคำเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นแตะ $3,450 ต่อออนซ์ ใกล้จุดสูงสุดตลอดกาล หลังสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง อิสราเอล–อิหร่าน ปะทุหนัก ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกแห่เข้าถือทองคำในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย” ขณะที่ ธนาคารกลางทั่วโลก ยังเดินหน้าเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเพื่อกระจายความเสี่ยง
ความขัดแย้งตะวันออกกลางกระทบทั้งทอง–น้ำมัน–การเมืองโลก
อิสราเอลเปิดปฏิบัติการ “Rising Lion” โจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่านกว่า 150 จุดทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเตหะราน ขณะที่อิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธกลับ และยืนยันเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ต่อไป พร้อมตัดสัมพันธ์การเจรจากับสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเกือบ 7% จากความเสี่ยงปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนน้ำมันสำคัญของโลก
ทองคำยังมีอัพไซด์ในระยะกลาง–ยาว แต่ผันผวนสูงระยะสั้น
ฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่า ราคาทองคำปีนี้ปรับขึ้นแล้วกว่า 30% จาก 3 ปัจจัยหลัก:
- ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์: สงครามและความไม่แน่นอนทั่วโลก
- แรงซื้อจากธนาคารกลาง: เพื่อกระจายความเสี่ยงจากค่าเงินดอลลาร์
- ความต้องการจากสถาบันการเงิน: ใช้ทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง
แม้ภาพรวมยังเป็นขาขึ้น แต่ระยะสั้นยังมีความผันผวนสูงจากนโยบายของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจุดยืนของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
โกลด์แมนแซคส์–แบงก์ออฟอเมริกา มองทองมีลุ้นแตะ $4,000
- Goldman Sachs: คาดทองคำแตะ $3,700 ภายในสิ้นปี 2568
- Bank of America: ประเมินมีโอกาสแตะ $4,000 ใน 12 เดือน
ทั้งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกว่า ทองคำยังคงเป็น สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ที่น่าจับตาในยุคเศรษฐกิจ–การเมืองโลกผันผวน