บอร์ด สปสช. ไฟเขียว “ฮอร์โมนยืนยันเพศสภาพ” เข้าเป็นสิทธิประโยชน์บัตรทอง
สปสช. เห็นชอบเพิ่ม “บริการฮอร์โมนเพื่อยืนยันเพศสภาพ” เป็นสิทธิประโยชน์บัตรทอง ดูแลคนข้ามเพศทุกสิทธิ 20,000 คน จัดหายาจำเป็น 6 รายการ เริ่มปีงบประมาณ 2568

ถือเป็นก้าวสำคัญของระบบสาธารณสุขไทย! เมื่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีมติเห็นชอบให้ “บริการฮอร์โมนเพื่อการยืนยันเพศสภาพ” เป็น สิทธิประโยชน์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ในระบบ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยตั้งเป้าดูแล กลุ่มคนข้ามเพศและผู้มีความหลากหลายทางเพศ คนไทยทุกสิทธิ จำนวน 20,000 คน ทั่วประเทศ เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2568
เป้าหมาย: ดูแลคนทุกกลุ่มอย่างมีศักดิ์ศรี
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. ระบุว่า มตินี้เป็นการผลักดันตามนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งเน้นความเสมอภาคทางเพศและการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพของทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง โดยผู้รับบริการจะได้รับ การประเมินสุขภาพ ตรวจเลือด สั่งจ่ายยาโดยแพทย์ และติดตามผล พร้อมเปิดช่องทางบริการผ่าน Telemedicine เพื่อความสะดวกและปลอดภัย
รายการยาฮอร์โมนที่จัดหาในระบบ
บอร์ด สปสช. เห็นชอบจัดหายาจำเป็น 6 รายการ เพื่อใช้ในโครงการ ภายใต้งบประมาณปี 2568 วงเงิน ไม่เกิน 145.625 ล้านบาท ได้แก่
- ยาฉีด Leuprorelin หรือ Triptorelin
- ยาเม็ด 17 beta-estradiol
- ยาทา Estradiol transdermal 0.06%
- ยาฉีด Testosterone enanthate
- ยาเม็ด Cyproterone acetate
- ยาเม็ด Spironolactone
เพิ่มช่องทางบริการ – สนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคม
สปสช. ยังเปิดทางให้องค์กรภาคประชาสังคมที่จัดบริการด้านฮอร์โมนเพื่อคนข้ามเพศ ขึ้นทะเบียนเป็นสถานบริการสาธารณสุขตามมาตรา 3 เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึง พร้อมเตรียมประกาศหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายให้มีผลบังคับใช้เร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ยังเตรียมผลักดัน ยาที่อยู่นอกบัญชียาหลักแห่งชาติ แต่จำเป็นต่อสุขภาพของคนข้ามเพศ เช่น Testosterone undecanoate (ชนิดฉีด) เข้าสู่ บัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้อย่างเป็นระบบในอนาคต