ราคาทองคำโลกเริ่มทยอยฟื้นตัว หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาอ่อนแอกว่าคาด สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง แม้ในระยะสั้นจะถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวขึ้น แต่มุมมองระยะยาวต่อทองคำยังคงเป็นบวกจากฝั่งสถาบันการเงินรายใหญ่
Goldman Sachs มองทองคำยังไปต่อ
Goldman Sachs ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกราว 14% ไปแตะระดับ 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในเดือนธันวาคม 2569 โดยให้เหตุผลว่าธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด และแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อย จะเป็นตัวขับเคลื่อนราคาทองคำในระยะยาว
ปัจจัยหลักที่หนุนมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ ได้แก่
- ธนาคารกลางทั่วโลกสะสมทองคำเพิ่ม
- วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของเฟด
- ความต้องการทองคำจากนักลงทุนรายย่อย
ระยะสั้นยังเจอแรงกดดันจากดอลลาร์และเฟด
แม้ภาพใหญ่จะดูสดใส แต่ระยะสั้นทองคำยังเผชิญแรงกดดัน หลังดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) แข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีขยับขึ้นเล็กน้อย ด้าน CME FedWatch ชี้ว่าตลาดให้น้ำหนักมากขึ้นว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยในเดือนมกราคม ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของประธานเฟดสาขานิวยอร์กที่มองว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังเหมาะสมต่อเสถียรภาพแรงงานและเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันกองทุน SPDR Gold Trust ยังขายทองคำออกเล็กน้อยในสัปดาห์ก่อน
สรุป
ทองคำโลกเริ่มฟื้นตัวจากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอลง และมุมมองเชิงบวกระยะยาวจาก Goldman Sachs แต่ในระยะสั้นยังต้องเผชิญแรงกดดันจากดอลลาร์แข็ง บอนด์ยีลด์ และท่าทีระมัดระวังของเฟด นักลงทุนควรแยกมุมมองระยะสั้นและระยะยาวให้ชัดก่อนตัดสินใจ