ภาพรวมราคาทองคำโลกในขณะนี้เริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) เริ่มนิ่งอยู่ที่ระดับ 98.0 หน่วย ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ 4.13% ส่งผลให้ทองคำมีความน่าดึงดูดมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ตัวเลขสำคัญเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว
ปัจจัยหนุนราคาทองคำและทิศทางนโยบายดอกเบี้ยเฟด
สถานการณ์ตลาดแรงงานในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภาวะตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด ข้อมูลจาก Challenger, Gray & Christmas ระบุว่ายอดการเลิกจ้างในปี 2025 พุ่งสูงขึ้นถึง 54% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ตัวเลขผู้ว่างงานในเดือนพฤศจิกายนยังดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 7.8 ล้านคน ส่งผลให้อัตราว่างงานแตะ 4.6% ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 4 ปี ปัจจัยเหล่านี้กลายเป็นแรงกดดันสำคัญที่อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จำเป็นต้องพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อประคองเสถียรภาพของตลาดแรงงาน
ข้อมูลสำคัญที่น่าติดตามและส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตลาด
- กองทุนทองคำโลก SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 18.59 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถือครองสุทธิ 1,071.13 ตัน
- การเจรจาระหว่าง ยูเครน-รัสเซีย-สหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณการพูดคุยเพื่อหาทางออกของวิกฤตการณ์
- ถ้อยแถลงของผู้นำยูเครนเตรียมเข้าพบทรัมป์เพื่อหารือแนวทางสันติภาพในอนาคต
สรุปได้ว่าราคาทองคำได้รับแรงหนุนหลักจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลงและการเข้าซื้ออย่างหนักของกองทุนขนาดใหญ่ แม้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จะเริ่มมีการเจรจาเกิดขึ้น แต่ภาพรวมความไม่แน่นอนยังคงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะหากเฟดตัดสินใจลดดอกเบี้ยตามคาดการณ์ จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้อีก