
กระทรวงพลังงานประกาศลดราคาน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ และเบนซินลง 30 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2568 ตามนโยบาย Quick Big Win เพื่อบรรเทาค่าครองชีพและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้รถ เมื่อ กระทรวงพลังงาน ภายใต้การนำของ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีมติจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ให้ปรับลดราคาน้ำมัน ดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร และ เบนซินลง 30 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและตอบโจทย์นโยบาย Quick Big Win ที่มุ่งเน้นผลลัพธ์เชิงรูปธรรมและรวดเร็ว
สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันลดลง
จากข้อมูลของกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ 61.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดีเซลและเบนซินอยู่ที่ 82.32 และ 77.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามลำดับ ปัจจัยสำคัญคือ
- ความเสี่ยงจากสงครามระหว่างรัสเซีย–ยูเครนที่เริ่มคลี่คลาย
- การเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+
- แนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้อุปสงค์พลังงานลดลง
- การคาดการณ์ของ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ว่าอุปทานน้ำมันโลกอาจล้นตลาด
ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง และเอื้อต่อการปรับลดราคาภายในประเทศ
ผลลัพธ์จากนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพลังงาน
นายอรรถพลยืนยันว่า การปรับลดราคาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้านโยบาย Quick Big Win ภายใน 4 เดือนแรก โดยเน้น 3 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่
- ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน
- บริหารราคาน้ำมันอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้
- สร้างเสถียรภาพด้านพลังงานระยะยาวของประเทศ
สำหรับฐานะของกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2568 ปรับตัวดีขึ้น โดยบัญชีน้ำมันบวกอยู่ที่ 26,910 ล้านบาท ขณะที่บัญชี LPG ติดลบอยู่ที่ 41,664 ล้านบาท รวมสุทธิติดลบ 14,754 ล้านบาท แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้
สรุป: การลดราคาน้ำมันดีเซลและเบนซินครั้งนี้ เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อทั้งผู้บริโภคและภาคขนส่ง ช่วยลดต้นทุนชีวิตและผลักดันเศรษฐกิจฐานรากให้ขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำแนวทางบริหารราคาพลังงานแบบโปร่งใสและยั่งยืนของกระทรวงพลังงาน