กนง. มีมติ 6:1 ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 2.00% ต่อปี
นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน กนง. เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ คณะกรรมการฯ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.25% เหลือ 2.00% ต่อปี โดยให้มีผลทันที
เหตุผลหลักในการลดอัตราดอกเบี้ย
- เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์
- ปัจจัยกดดันหลักมาจาก ภาคการผลิตอุตสาหกรรม ที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ
- ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลักที่ส่งผลต่อการส่งออก
- แม้จะมีแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศและการท่องเที่ยว แต่ยังไม่เพียงพอต่อการเติบโตโดยรวม
- กรรมการเสียงข้างมากเห็นว่าการลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
- สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
- ลดความเสี่ยงเชิงลบที่มีความชัดเจนมากขึ้น
- หนึ่งเสียงที่เห็นควรให้คงดอกเบี้ยเดิม ให้เหตุผลว่า การคงอัตราดอกเบี้ยจะช่วยรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในระยะยาว เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น
แนวโน้มเศรษฐกิจและการเงิน
- เศรษฐกิจไทยในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าที่ประเมินไว้
- อุตสาหกรรมที่เผชิญความท้าทายสูง ได้แก่ ยานยนต์ ปิโตรเคมี และวัสดุก่อสร้าง
- ภาคบริการยังขยายตัวได้ดี จากการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศ
- การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวจากสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีและเกษตรแปรรูป
- เงินเฟ้อทั่วไป
- อยู่ใกล้ขอบล่างของกรอบเป้าหมาย
- ราคาน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มลดลง
- ไม่มีสัญญาณเงินฝืด และช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน
- สินเชื่อและภาวะการเงิน
- ภาวะการเงินยังคงตึงตัว แม้ว่าสินเชื่อโดยรวมเริ่มมีสัญญาณทรงตัว
- สินเชื่อ SMEs ยังหดตัวต่อเนื่อง
- สินเชื่ออุปโภคบริโภคลดลงจากภาระหนี้ที่ยังอยู่ในระดับสูง
ผลกระทบของการลดดอกเบี้ยนโยบาย
- ช่วย ลดความตึงตัวของภาวะการเงิน โดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาว
- กระตุ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อ
- ส่งผลต่อ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ที่มีความผันผวนจากนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลัก
สรุป
การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำกว่าคาดการณ์ โดย กนง. จะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงอยู่ในระดับที่เหมาะสม และสามารถรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า