ทำความรู้จัก “บาทเนต” ระบบโอนเงินมูลค่าสูงแบบเรียลไทม์ของประเทศไทย
รู้จัก “บาทเนต” ระบบโอนเงินมูลค่าสูงแบบเรียลไทม์ของ ธปท. ที่สถาบันการเงินใช้โอนเงินระหว่างกันแบบปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดความเสี่ยงระบบการเงิน
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp&w=1024&resize=1024,0&ssl=1)
ระบบ บาทเนต (BAHTNET) คือระบบโอนเงินมูลค่าสูงระหว่างสถาบันการเงินและหน่วยงานภาครัฐ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พัฒนาขึ้นเพื่อให้การชำระเงินมีความปลอดภัย รวดเร็ว และลดความเสี่ยงของระบบการเงินโดยรวม โดยดำเนินการในรูปแบบ Real-Time Gross Settlement (RTGS) หรือการโอนแบบเรียลไทม์ทุกธุรกรรม โดยไม่มีการหักล้างยอดรวม
จุดเด่นของระบบบาทเนต
- ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2538 เพื่อทดแทนการใช้เช็คในการโอนเงินขนาดใหญ่
- ผู้รับเงินจะได้รับเงิน “ทันที” หลังการโอน ทำให้เกิดความแน่นอนทางการเงิน (finality)
- ผู้ใช้บริการต้องมีบัญชีเงินฝากกับธปท. เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ และหน่วยงานรัฐ
- แบ่งประเภทผู้ใช้เป็น Direct Member (เชื่อมระบบโดยตรง) และ Associated Member (ใช้ผ่านระบบของสมาชิกหลัก)
บริการหลักในระบบบาทเนต
- การโอนเงินระหว่างบัญชีธปท. – ทั้งระหว่างสถาบันการเงิน หรือในชื่อเดียวกัน
- การโอนเงินเพื่อบุคคลที่สาม – โอนข้ามธนาคารตามคำสั่งของลูกค้าภายในวันเดียวกัน
- การสอบถามยอด-รายการบัญชี
- การส่งข้อความระหว่างผู้ใช้บริการ – ทั้งแบบส่วนตัวและการประกาศจาก ธปท.
- การชำระดุลสุทธิแบบหลายฝ่าย (MFT) – เช่น การหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคาร
การเชื่อมโยงและความปลอดภัย
- มี 2 ช่องทางหลัก:
- ผ่านระบบ S.W.I.F.T.
- ผ่าน BOT Web Portal (EFS)
- ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เช่น Digital Signature และ Private Key Token เพื่อป้องกันการแอบอ้าง ปลอมแปลง และตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน
ค่าธรรมเนียมการใช้บริการ
- ค่าบริการรายเดือน: 3,500 บาท/ราย (Direct Member), 500 บาท/ราย (Associated Member)
- ค่าธรรมเนียมการโอน: กำหนดโดยแต่ละธนาคารเองแบบเสรี ไม่มีเพดานสูงสุด