กทม. ขึ้นค่าธรรมเนียม ค่าขยะ เริ่ม ต.ค. 68 ชวนคนกรุงแยกขยะ
กทม. เริ่มเก็บค่าขยะอัตราใหม่ ต.ค. 68 นี้! ไม่แยกขยะจ่าย 60 บาท แยกแล้วลดเหลือ 20 บาท ลงทะเบียนผ่านแอปฯ BKK Waste Pay เพื่อสิทธิประโยชน์และร่วมสร้างเมืองสะอาดยั่งยืน

กรุงเทพมหานคร เตรียมจัดเก็บ “ค่าธรรมเนียมขยะอัตราใหม่” เริ่มใช้จริงเดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป หลังข้อบัญญัติว่าด้วยการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ลดปริมาณขยะต้นทาง พร้อมกระตุ้นให้ประชาชนร่วมแยกขยะอย่างเป็นระบบ ซึ่งไม่เพียงช่วยสิ่งแวดล้อม แต่ยังลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย ผ่านแคมเปญ “บ้านนี้ไม่เทรวม” และแอปฯ BKK Waste Pay ที่จะเข้ามาช่วยติดตาม-ประเมินการคัดแยกขยะของแต่ละครัวเรือน
ค่าขยะ อัตราใหม่ จ่าย 60 บาท ถ้าไม่แยกขยะ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ระบบค่าธรรมเนียมขยะใหม่นี้ใช้หลักการ “ใครผลิตขยะมาก จ่ายมาก (PAYT Model)” โดย บ้านพักทั่วไปที่ไม่แยกขยะ จะเสีย 60 บาท/เดือน (30 บาท ค่าขน + 30 บาทค่ากำจัด)
แต่ถ้า แยกขยะตามเกณฑ์และลงทะเบียนผ่านแอปฯ จะยังคงเสียค่าธรรมเนียมเดิมเพียง 20 บาท/เดือน เท่านั้น
การแยกขยะจะเน้นให้แยก “ขยะเปียก” (เช่น เศษอาหาร) ออกจาก “ขยะแห้ง” และสามารถขายขยะรีไซเคิลได้เพิ่มเติม ซึ่งนอกจากลดค่าธรรมเนียมแล้วยัง เปลี่ยนขยะเป็นรายได้ ได้จริง ทั้งยังช่วยไม่ให้ขยะเปียกทำให้ขยะแห้งเสียคุณภาพไปด้วย
ค่าธรรมเนียมใหม่ แบ่งตามปริมาณขยะและประเภทผู้ใช้งาน
- บ้านพักอาศัยทั่วไป (ไม่เกิน 20 ลิตร/วัน):
- ไม่แยกขยะ จ่าย 60 บาท/เดือน
- แยกขยะ + ลงทะเบียน จ่าย 20 บาท/เดือน
- สถานที่ผลิตขยะเกิน 20 ลิตร/วัน – 1 ลูกบาศก์เมตร:
- จ่าย 120 บาท/เดือน ต่อ 20 ลิตร
- ต้องแยกขยะเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
- สถานที่ผลิตขยะมากกว่า 1 ลูกบาศก์เมตร/วัน:
- จ่าย 8,000 บาท/เดือน ต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร
- กำหนดให้สถานที่เหล่านี้มีแผนคัดแยกขยะของตนเอง
อัตราใหม่จะถูกใช้กับทุกประเภทของมูลฝอย รวมถึงขยะติดเชื้อ ขยะอันตราย และไขมันจากร้านอาหาร เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบร่วมกันในการจัดการต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองหลวง
ตั้งเป้าลดขยะวันละ 1,000 ตัน – ประหยัดงบปีละพันล้าน
ปัจจุบัน กทม. ต้องจัดการขยะวันละ 10,000 ตัน ใช้งบประมาณกว่า 7,000–8,000 ล้านบาทต่อปี หากสามารถลดปริมาณขยะได้วันละ 1,000 ตัน ก็จะประหยัดได้ถึงวันละ 2 ล้านบาท โดยข้อมูลระบุว่า ขยะกรุงเทพฯ กว่า 50% คือ เศษอาหาร ซึ่งหากคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง จะช่วยให้ขยะประเภทอื่นเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กทม. ได้เร่งลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาชน เพิ่มอัตราการลงทะเบียนใช้งานแอปฯ BKK Waste Pay และนำร่องแจกถุงขยะ-สติกเกอร์ให้ครัวเรือน เพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมดึงโรงเรียนในสังกัดกว่า 2.5 แสนคน และภาคีเครือข่ายร่วมมือกันเพื่อสร้างพฤติกรรมใหม่ให้เป็นกระแสสังคม