งบกลาโหม กัมพูชา 10 ปี โตแค่ไหน? เปิดแสนยานุภาพ-อาวุธ ยุคฮุน มาเนต

งบกลาโหมกัมพูชา 10 ปี “โต” แค่ไหน?

แม้กัมพูชา จะไม่ได้เป็นประเทศมหาอำนาจทางทหาร แต่ถ้าเทียบงบกลาโหมย้อนหลัง 10 ปี จะเห็นภาพชัดเจนว่า “แสนยานุภาพ” ของประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังขยับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยข้อมูลจาก Stockholm International Peace Research Institute (SIPRI) ระบุว่า ปี 2015 กัมพูชาใช้งบกลาโหมราว 325 ล้านดอลลาร์ ขยับขึ้นทุกปี จนปี 2024 ล่าสุดแตะ 720.5 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 121% ในรอบ 10 ปี สะท้อนความพยายามในการเพิ่มศักยภาพด้านความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชาในยุคสมเด็จฯ ฮุน มาเนต ที่ต้องการให้ประเทศมีระบบป้องกันภัยที่ทันสมัยและเข้มแข็งยิ่งขึ้น

แนวโน้มการเติบโตของงบกลาโหมของกัมพูชาไม่ได้พุ่งแบบก้าวกระโดดเหมือนบางประเทศ แต่ “โตอย่างมั่นคง” เฉลี่ยปีละ 5–15% มีบางช่วงชะลอตัวเล็กน้อยในช่วงปีโควิด-19 (2021–2022) แต่กลับมาเร่งอีกครั้งในช่วงปี 2023–2024 ซึ่งเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนผ่านอำนาจทางการเมืองและแรงผลักดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในบริบทความสัมพันธ์กับประเทศจีนที่ให้การสนับสนุนทั้งงบประมาณและอาวุธใหม่ต่อเนื่อง

อาวุธ–ยุทโธปกรณ์ “เก่า-ใหม่” ของกองทัพกัมพูชา

แม้จะมีงบกลาโหมไม่สูงเท่าประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ แต่กัมพูชาก็มีการอัปเกรดอาวุธอย่างต่อเนื่องจากหลากหลายประเทศ ทั้งจากจีน รัสเซีย เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย รวมถึงสหรัฐฯ (ในอดีต) โดยยุทโธปกรณ์หลักของกัมพูชาประกอบด้วย:

• อาวุธเบาและปืนกล: ใช้ AK-47, M16A1, Type 81-1, PKM, DShK รวมถึงไรเฟิลซุ่มยิง Dragunov และ RPG-7 ที่ยังคงเป็นหัวใจหลักในการรบภาคพื้นดิน
• รถถัง-รถเกราะ: ประจำการ Type 59, Type 69-II, T-54/55 รวมถึงรถลำเลียงพลจากจีนและรัสเซีย เช่น WZ551, BTR-60/70/80
• ปืนใหญ่-จรวด: ครอบคลุมทั้ง M-30, D-30, Type 83 และจรวด BM-21 Grad, Type 90B ไปจนถึงระบบล้ำสมัยจากจีนอย่าง PHL-03
• ระบบป้องกันภัยทางอากาศ: ใช้งานขีปนาวุธ S-75, QW-3 และปืนต่อสู้อากาศยานแบบ ZPU-4, Type 59 (100 มม.)
• อากาศยาน: มีเฮลิคอปเตอร์ Mi-8, Z-9, Eurocopter และ L-39C สำหรับโจมตีเบา แต่ไม่มีเครื่องบินรบประจำการ
• เรือรบ: ล่าสุดรับมอบ Type 056C จากจีน พร้อมเรือตรวจการณ์ Shangai-II class

ภาพรวมคือ “จำนวนมาก อาวุธเก่า แต่ได้รับการเสริมด้วยระบบใหม่จากจีน” เป็นแนวทางของกัมพูชาในการรักษาศักยภาพทางทหารในงบประมาณที่จำกัด