รัฐบาลออกมาเตือนประชาชนอย่านำสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ไปขายต่อหรือให้ผู้อื่นใช้แทน เพราะเข้าข่าย “ฉ้อโกง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมระงับสิทธิในโครงการรัฐอื่น
โฆษกรัฐบาลเตือนขายสิทธิคนละครึ่งพลัสผิดกฎหมาย
น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลพบการขายสิทธิคนละครึ่งพลัสผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากผู้ได้รับสิทธินำไปขายให้ผู้อื่น หรือร้านค้าสมรู้ร่วมคิดโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง จะมีความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ตามมาตรา 341/342 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วัตถุประสงค์ของโครงการคนละครึ่งพลัส
โครงการนี้อยู่ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีเป้าหมายช่วยเหลือประชาชนในภาวะค่าครองชีพสูง ผ่านวงเงินสนับสนุนการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
ช่องทางตรวจสอบและติดต่อสอบถามโครงการ
ประชาชนและร้านค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากช่องทางทางการของรัฐบาล ได้แก่
- เว็บไซต์ทางการ: www.คนละครึ่งพลัส.com
- ศูนย์ช่วยเหลือประชาชน โทร. 0 2111 1122 (กด 3) ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 08-5842-7102 ถึง 7109 (จันทร์–ศุกร์ 08.30–16.30 น.)
สรุป:
รัฐบาลย้ำว่าการขายสิทธิคนละครึ่งพลัสเป็นความผิดทางอาญาและส่งผลเสียต่อภาพรวมของโครงการ จึงขอให้ประชาชนใช้สิทธิตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เพื่อให้ความช่วยเหลือถึงมือผู้ที่สมควรได้รับอย่างแท้จริง