เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองโลก มีการปรับตัวลงเล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากการที่ตลาด CME FedWatch ได้ปรับลดการคาดการณ์โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคมนี้ เหลือเพียง 44.4% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 50.1% การปรับลดลงนี้มีผลมาจากการที่ผู้ว่าการเฟดหลายท่านออกมารวมถึง นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้แสดงความไม่แน่นอนต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี ซึ่งส่งผลให้ความน่าจะเป็นในการปรับลดดอกเบี้ยลดลง และกดดันให้ ราคาทอง อ่อนตัวลงตามไปด้วย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองโลก
ตลาดให้ความสนใจอย่างมากต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟด โดยเฉพาะมุมมองของผู้ว่าการเฟดหลายท่านที่ออกมาแสดงความกังวล ซึ่งมุมมองเหล่านี้มีน้ำหนักเท่ากับที่ประธานเฟดได้กล่าวไว้ในการประชุม FOMC
- มุมมองผู้ว่าเฟด: ประธานเฟดสาขาบอสตัน, แอตแลนตา, เซนต์หลุยส์, คลีฟแลนด์, ชิคาโก และผู้ว่าเฟด นายไมเคิล บาร์ รวม 6 ท่าน ได้แสดงท่าทีที่ไม่แน่นอนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้
- บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงจาก 4.08% สู่ระดับ 4.14% ในวันเดียวกัน
- ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY): ดอลลาร์ยังคงปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 สู่ระดับ 99.27 หน่วย จาก 100.18 หน่วย แม้จะมีแรงกดดันเรื่องการลดดอกเบี้ย แต่ตลาดยังคงกังวลต่อผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ที่อาจส่งผลให้การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญล่าช้า
- กองทุน SPDR: มีการเทขายทองคำออกไป 4.93 ตัน ทำให้ยอดรวมสุทธิอยู่ที่ 1,044 ตัน
การปรับลดลงของ ราคาทองโลก ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลและความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่ในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย การเคลื่อนไหวของดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่มีความผันผวนก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
สรุปแนวโน้มและสิ่งที่ต้องติดตาม
โดยสรุปแล้ว แนวโน้มราคาทองโลก ถูกกดดันจากการลดลงของโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคม แม้ว่าดัชนีเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงต่อเนื่อง แต่มุมมองที่ไม่แน่นอนของผู้กำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ราคาทอง ไม่สามารถปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง
คืนนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย นักลงทุนควรติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ คือ ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นอีกข้อมูลสำคัญที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟดและทิศทาง ราคาทองโลก ในระยะสั้น