รัฐบาลไทยได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และได้เห็นชอบกับมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบที่ส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีมาตรการสำคัญ 3 ประการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจง ดังนี้
มาตรการแรก คือ การตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้คงที่ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร มาตรการนี้ถือเป็นการช่วยเหลือโดยตรงต่อผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการขนส่งสินค้าได้
คือมาตรการที่สอง คือ การกำหนดราคาปลีกของก๊าซ LPG ให้อยู่ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม สำหรับครัวเรือน ทำให้ประชาชนสามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับก๊าซที่ใช้ในการประกอบอาหารและการใช้งานอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
มาตรการที่สาม คือ การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าที่ 19.05 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นการสนับสนุนกลุ่มเปราะบางที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้า การใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการอุดหนุนราคาดีเซลเป็นการแก้ไขปัญหาชั่วคราวที่รัฐบาลหวังว่าจะช่วยให้สามารถรักษาราคาค่าใช้จ่ายให้คงที่ได้ หากเงินในกองทุนไม่เพียงพอ รัฐบาลอาจต้องพิจารณาการใช้งบกลางเพื่อสนับสนุนต่อไป
โดยรวมแล้ว มาตรการเหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลในการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศในสภาวะที่ต้นทุนพลังงานทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง