ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติ “คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” ไว้ที่ระดับ 4.25–4.50% ตามความคาดหมาย พร้อมส่งสัญญาณเตรียมลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ รวม 0.50% ขณะที่ปรับลดคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ปี 2025 ลงเหลือ 1.4% จากเดิม 1.7% และปรับเพิ่มเงินเฟ้อเป็น 3.1% จาก 2.8% สะท้อนความกังวลต่อแรงกดดันด้านราคาจากภาษีศุลกากรยุคทรัมป์
พาวเวลย้ำ “ยังไม่เห็นสัญญาณเศรษฐกิจอ่อนแอ”
เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเติบโตแข็งแกร่ง แม้นักวิเคราะห์จะเคยมองว่าจะชะลอตัว โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เฟดเชื่อว่าเงินเฟ้ออาจพุ่งแรงขึ้นในช่วงฤดูร้อน เพราะผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์จะส่งผ่านต้นทุนมาถึงผู้บริโภคโดยตรง
เขาระบุว่า เฟดอาจต้อง “รอดูข้อมูลเพิ่มเติม” สักระยะก่อนตัดสินใจปรับนโยบายการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าภาวะเงินเฟ้อจะมีทิศทางที่ชัดเจน โดยขณะนี้มีคณะกรรมการ 7 ใน 19 คนเห็นว่ายังไม่ควรลดดอกเบี้ยในปีนี้ สะท้อนความไม่แน่นอนด้านนโยบายและเศรษฐกิจโลก
จับตาตลาดโลกท่ามกลางความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
แม้เฟดจะไม่พูดตรง ๆ ถึงความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลในรอบนี้ แต่ก็ยอมรับว่า “ราคาพลังงาน” ที่อาจพุ่งขึ้นจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม อย่างไรก็ตามเฟดประเมินว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำมันมักเป็นเพียงระยะสั้น และไม่ส่งผลยั่งยืนต่อทิศทางเงินเฟ้อโดยรวม