กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้ประเมินการเคลื่อนไหวของ ค่าเงินบาทวันนี้ ว่าจะอยู่ในกรอบแคบ ๆ ระหว่าง 32.35-32.60 บาทต่อดอลลาร์ แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันสำคัญจากตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศ นั่นคือ GDP ไทยไตรมาส 3 ที่ขยายตัวเพียง 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YOY) ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) เศรษฐกิจไทยยังหดตัวถึง -0.6% ซึ่งแย่กว่าที่คาดไว้มาก โดยสาเหตุหลักมาจาก การใช้จ่ายภาครัฐ ที่ออกมาในระดับที่ไม่ดีเท่าที่ควร
ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท
นอกจากปัจจัยภายในประเทศแล้ว แนวโน้มค่าเงินบาท ยังได้รับผลกระทบจากความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศอื่น ๆ
- ดัชนีเงินดอลลาร์แข็งค่า: ดัชนี Empire Manufacturing ประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงในช่วงข้ามคืน
- GDP ญี่ปุ่นหดตัวหนัก: ตัวเลข GDP ญี่ปุ่นไตรมาส 3 หดตัวลงถึง -8% เมื่อเทียบรายไตรมาส (QOQ) ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างชัดเจน และคาดว่าจะกลายเป็นแรงหนุนให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สรุปแนวโน้มค่าเงินบาท
โดยสรุปแล้ว ค่าเงินบาทวันนี้ ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด แม้จะมีแรงกดดันจากตัวเลข GDP ไทย ที่น่าผิดหวัง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐ แต่ในขณะเดียวกัน การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้ นักลงทุนจึงควรติดตามทั้งการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของไทย และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดต่อไป