ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ได้มีการโอนเงินเข้าให้ผู้ถือบัตรจำนวนกว่า 13 ล้านราย โดยผู้ที่ยื่นอุทธรณ์และยืนยันตัวตนสำเร็จจะได้รับเงินย้อนหลังจำนวน 2,100 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นการช่วยเหลือรวม 7 เดือน ที่ผ่านมาท่านได้รับเงินเดือนละ 300 บาท
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนพฤศจิกายน นี้มีการโอนเงินวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเดือนละ 300 บาทต่อคน, วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อเดือน บขส., รถไฟ, ขสมก., รถไฟฟ้า และวงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท สำหรับ 3 เดือน (ตุลาคม – ธันวาคม 2566) อย่างไรก็ตาม, เงินที่โอนนี้ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้และไม่สามารถสะสมไปยังเดือนถัดไปได้
ความคืบหน้าของการยืนยันตัวตนของผู้ที่มีคุณสมบัติตามโครงการนี้มีมากถึง 13,809,073 คน หรือประมาณ 91.80% ของผู้ที่มีคุณสมบัติทั้งหมด สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนยังมีโอกาสที่จะดำเนินการได้ที่ธนาคารกรุงไทยตามเวลาทำการ นอกจากนี้ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน จะมีการโอนเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทสำหรับผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไปและได้รับสิทธิในรอบใหม่
การใช้สิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่มีคุณสมบัติตามโครงการและได้รับการยืนยันตัวตนสำเร็จได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยมีมูลค่าการใช้สิทธิ์สะสมเกินกว่า 2,929.10 ล้านบาท จากผู้ที่มีสิทธิ์กว่า 9.8 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นการใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าจำเป็นจากร้านธงฟ้า, ค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ และค่าก๊าซหุงต้มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
การช่วยเหลือนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการทางสังคมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลที่จะกระจายความช่วยเหลือไปยังประชาชนในกลุ่มต่างๆ และยังคงเป็นตัวชี้วัดในการติดตามผลลัพธ์ที่ส่งผลโดยตรงต่อประชาชนในระดับรากหญ้า
