สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ทำการปรับปรุงค่าเอฟที (FT) สำหรับงวดเดือนมกราคมถึงเมษายน 2567 โดยได้มีการประกาศค่าเอฟทีใหม่ที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งส่งผลให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดดังนี้
การปรับปรุงค่าเอฟที ค่าไฟ และผลที่ตามมา
- การปรับปรุงเบื้องต้น: ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566, กกพ. มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเริ่มต้นที่ 89.55 สตางค์ต่อหน่วยสำหรับงวดนี้ ซึ่งทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย
- การลดภาระเงินคงค้าง: การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้รับภาระเงินคงค้างสะสม 15,963 ล้านบาท เพื่อช่วยลดค่าเอฟทีลง 25.37 สตางค์ต่อหน่วย
- การปรับปรุงราคา Spot LNG: การปรับลดราคาประมาณการของ Spot LNG ทำให้ราคา Pool Gas ลดลง และส่งผลให้ค่าเอฟทีลดลง 9.98 สตางค์ต่อหน่วย
- การปรับปรุงราคาก๊าซธรรมชาติ: มีการปรับราคาก๊าซธรรมชาติเข้าและออกจากโรงแยกก๊าซ ทำให้ Pool Gas ลดลง และค่าเอฟทีลดลง 10.01 สตางค์ต่อหน่วย
- การเรียกเก็บ Shortfall: มีการเรียกเก็บเงิน Shortfall จาก ปตท. จำนวน 4,300 ล้านบาท ทำให้ Pool Gas ลดลงอีก และค่าเอฟทีลดลง 4.47 สตางค์ต่อหน่วย
มาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้า
ครม. ยังได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยมีการตรึงอัตราค่าไฟฟ้าให้อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย การดำเนินมาตรการดังกล่าวจะใช้เงินงบประมาณจากรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินจากคณะรัฐมนตรี วงเงินรวม 1,950 ล้านบาท
การปรับลดค่าเอฟทีและค่าไฟฟ้าในปี 2567 นี้ แสดงถึงความพยายามของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ทั้งนี้การปรับปรุงราคาและมาตรการต่างๆ ที่กำหนดขึ้นมีผลกระทบโดยตรงต่อค่าไฟฟ้าที่ผู้บริโภคจะต้องจ่าย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือกลุ่มบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยเป็นการแสดงถึงความห่วงใยต่อประชาชนที่มีรายได้น้อยและการพยายามลดผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน