ธปท. คุมเข้ม Mobile Banking จำกัด 1 บัญชีต่อ 1 อุปกรณ์ ป้องกันภัยไซเบอร์

การใช้บริการ Mobile Banking โดยกำหนดให้ ผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนได้เพียง 1 บัญชีต่อ 1 สถาบันการเงิน และใช้งานได้บนมือถือเพียงเครื่องเดียว

ธปท. คุมเข้ม Mobile Banking จำกัด 1 บัญชีต่อ 1 อุปกรณ์ ป้องกันภัยไซเบอร์

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศ ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย สำหรับการใช้บริการ Mobile Banking โดยกำหนดให้ ผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนได้เพียง 1 บัญชีต่อ 1 สถาบันการเงิน และใช้งานได้บนมือถือเพียงเครื่องเดียว เพื่อป้องกันความเสี่ยงจาก ภัยไซเบอร์และการทุจริตทางการเงิน

สาระสำคัญของประกาศ ธปท.

1. จำกัดการใช้งาน Mobile Banking

  • 1 บัญชีต่อ 1 สถาบันการเงิน
  • ใช้งานได้บนมือถือเพียง 1 เครื่อง เท่านั้น

2. เพิ่มมาตรการยืนยันตัวตนก่อนทำธุรกรรมใหญ่

สถาบันการเงินต้องใช้ เทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้า (Face Comparison) ร่วมกับ Liveness Detection เพื่อตรวจจับการปลอมแปลงชีวมิติ เช่น การใช้ภาพถ่ายหรือวิดีโอ โดยต้องมีการยืนยันตัวตนในกรณีต่อไปนี้:

  • โอนเงินครั้งละ 50,000 บาทขึ้นไป
  • โอนเงินรวมครบทุก 200,000 บาทใน 1 วัน
  • ปรับเพิ่มวงเงินโอนต่อวันเกิน 50,000 บาท

3. กำหนดเพดานวงเงินโอนสูงสุดต่อวัน

เพื่อลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ ธนาคารต้องกำหนดเพดานวงเงินที่เหมาะสม เช่น ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถทำธุรกรรมถอนหรือโอนเงินรวมกันได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน

4. มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วัน

ประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้ ภายใน 30 วัน หลังจากเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา


สรุปผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ

  • ต้องเลือกใช้อุปกรณ์เดียวสำหรับ Mobile Banking
  • ต้องยืนยันตัวตนเพิ่มเติมสำหรับธุรกรรมมูลค่าสูง
  • มีการกำหนดเพดานวงเงินโอนที่เข้มงวดขึ้น

ตรียมพร้อมปรับตัว เช็กอุปกรณ์และบัญชีของคุณให้เรียบร้อยก่อนมาตรการบังคับใช้!