เฟดมีมติคงดอกเบี้ยตามคาดการณ์ตลาด
ในการประชุมวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติ เป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 4.25–4.50% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับการประชุมครั้งก่อน และเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดการเงิน
แม้จะไม่มีการปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย แต่คำแถลงของเฟดยังคงสะท้อนถึงความกังวลอย่างมากต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน และความเสี่ยงจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
ส่งสัญญาณเตือนภาวะ “Stagflation” เริ่มปรากฏ
เฟด ได้กล่าวถึง ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ควบคู่กับ เงินเฟ้อที่ยังคงสูง (Inflation) ซึ่งเมื่อเกิดพร้อมกันจะนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า Stagflation – ภาวะที่เศรษฐกิจหดตัวแต่ค่าครองชีพยังพุ่งสูง
แถลงการณ์ระบุชัดว่า คณะกรรมการเฟดให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อ “พันธกิจสองด้าน” ทั้งเรื่องเงินเฟ้อและการจ้างงาน และประเมินว่าความเสี่ยงที่อัตราว่างงานจะสูงขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อก็ยังดีดตัวขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ตลาดยังจับตานโยบายต่อไป แม้ไม่กล่าวถึงภาษีศุลกากร
แม้แถลงการณ์จะไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนโยบายภาษีศุลกากรของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์โดยตรง แต่บรรยากาศในตลาดยังคงเฝ้าจับตาการเมืองและนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน เงินเฟ้อ และทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไป
ทั้งนี้ นักลงทุนทั่วโลกยังคาดว่าเฟดจะใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในแต่ละเดือน และแนวโน้มเงินเฟ้อว่าจะลดลงได้ตามเป้าหมาย 2% หรือไม่