เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 68 กระทรวงการคลังได้เสนอ 2 เรื่องสำคัญเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่องแรกคือ โครงการ “คนละครึ่งพลัส 1.5“ ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งพลัส เพื่อให้ร้านค้ารายย่อยมีความสามารถในการปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงิน 20% ของยอดขายที่เพิ่มขึ้น สูงสุดร้านละ 2,000 บาท การประกาศผลร้านค้าที่ได้สิทธิ์จะเริ่ม 23 ธ.ค. 68 และเริ่มโอนเงินในวันที่ 25 ธ.ค. 68
คนละครึ่งพลัส 1.5 คืออะไร? รับเงิน 2,000 บาท ทำอย่างไร?
โครงการ คนละครึ่งพลัส เฟส 1.5 เน้นการสนับสนุนร้านค้าที่ต้องการยกระดับทักษะ โดยร้านค้าจะต้องมีคุณสมบัติเป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่งพลัส และเลือกอบรมตามเงื่อนไขเพื่อรับเงินสนับสนุนสูงสุด 2,000 บาท
ร้านค้าสามารถเลือกปฏิบัติ 1 ใน 3 เงื่อนไข เพื่อให้ได้รับเงินสนับสนุน ดังนี้:
- เข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform:
- ต้องเป็นร้านที่ไม่เคยอยู่ในฐานข้อมูลของแพลตฟอร์ม Food Delivery ที่เลือก (เช่น Grab, Lineman, Robinhood, ShopeeFood) ก่อนวันที่ 18 พ.ย. 68
- ต้องมีคำสั่งซื้อที่ใช้สิทธิผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส อย่างน้อย 5 รายการ ภายใน 19 ธ.ค. 68
- อบรมออนไลน์ของธนาคารออมสิน:
- ร้านบุคคลธรรมดาต้องเรียนครบ 3 หลักสูตร และร้านนิติบุคคลเรียน 1 หลักสูตร
- ต้องทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนแต่ละหลักสูตร
- อบรมออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD Academy):
- อบรมออนไลน์ผ่านระบบ DBD Academy และทำแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน โดยได้คะแนนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดอย่างน้อย 1 วิชา
รื้อแผนการคลังระยะปานกลาง มุ่งสู่การขาดดุลอย่างยั่งยืน
เรื่องที่สองที่กระทรวงการคลังเสนอคือการปรับปรุง แผนการคลังระยะปานกลาง โดยมีเป้าหมายหลักคือการปรับลดการขาดดุลการคลังให้อยู่ในระบบมาตรฐาน คือการขาดดุลไม่เกิน 3% ของ GDP ภายในปีงบประมาณ 2572 จากที่คาดการณ์การขาดดุลไว้ที่ 4.4% ในปีงบประมาณ 2569
นอกจากนี้ การปรับแผนตามกรอบวินัยการคลังยังประกอบด้วย 3 แนวทางสำคัญ:
- การจัดการที่ชัดเจน: กำหนดแนวทางการจัดการด้านการคลังอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านรายได้ รายจ่าย หนี้สิน และทรัพย์สินของประเทศ
- ยกระดับความโปร่งใส (Fiscal Rule): เพิ่มกฎเกณฑ์ทางการคลัง โดยจะมีการรายงานรายได้ที่สูญเสียไปจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี (รวมถึงมาตรการ BOI) อย่างชัดเจน เพื่อเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบ
- กำกับมาตรการกึ่งการคลัง: วางแนวทางในการกำกับดูแลมาตรการกึ่งการคลังภายใต้มาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง เพื่อเพิ่มความชัดเจนในการจัดการภาระการคลังและสร้างความเชื่อมั่นต่อ Rating Agency