สำหรับโครงการ คนละครึ่งพลัส ผู้ที่ได้รับสิทธิแล้วสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ วันที่ 29 ต.ค. – 31 ธ.ค. 68 ในช่วงเวลา 06.00–23.00 น. วิธีการง่ายมาก เพียงแค่เข้าแอปพลิเคชัน เป๋าตัง แล้วกดที่แบนเนอร์ “คนละครึ่งพลัส” ก็เริ่มใช้งานได้เลยทันที แต่ปัญหาที่หลายคนสงสัยคือ ถ้ามีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ สิทธิเก่าจะหายไหม? คำตอบคือ สิทธิไม่หาย หากทำตามขั้นตอนยืนยันตัวตนอย่างถูกต้อง
วิธีเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ในแอปเป๋าตัง
การเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ หรือการติดตั้งแอปฯ เป๋าตัง ใหม่หลังจากลบไปแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิใหม่ แต่ต้องทำการยืนยันตัวตนอีกครั้ง เพื่อให้ระบบตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ได้ถูกต้องและป้องกันสิทธิหลุดจากแอปฯ
ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับการเปลี่ยนเบอร์ใหม่
- ติดตั้งและเปิดแอปฯ: อัปเดตแอปฯ เป๋าตังให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด จากนั้นให้ ปิด Wi-Fi แล้วเปิดแอปฯ เพื่อให้ระบบตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์จากสัญญาณมือถือ
- ยินยอมและยืนยัน: กด “ยินยอม” ให้จัดการข้อมูลส่วนตัว และยืนยันให้ระบบตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ใหม่
- กรอกข้อมูลและ OTP: กรอก เลขบัตรประชาชน และ เบอร์โทรศัพท์ใหม่ ที่ใช้งานอยู่ จากนั้นรอรับรหัส OTP ทาง SMS แล้วกรอกเพื่อยืนยัน
- ยืนยันตัวตน: ยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ Krungthai NEXT หรือสแกนใบหน้า
- เข้าใช้งาน: ใส่รหัส PIN 6 หลักเดิม เพื่อเข้าใช้งานต่อได้ทันที สิทธิเดิมของคุณก็จะกลับมาครบถ้วน
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการใช้งานสิทธิ
หากคุณกังวลว่าข้อมูลจะเปลี่ยนไป หรือยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ ลองดูคำถามยอดฮิตเหล่านี้:
- ถ้าเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล สิทธิจะหายไหม? สิทธิไม่หาย เพราะระบบยึดตาม หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ข้อมูลใน G Wallet จะแสดงชื่อใหม่
- สแกนใบหน้ายืนยันตัวตนไม่ผ่าน ทำยังไง? ให้ติดต่อธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือตู้ ATM ที่สามารถยืนยันตัวตนได้ โดยนำบัตรประชาชนตัวจริงไปด้วย
สรุป
คุณสามารถเริ่มใช้จ่าย คนละครึ่งพลัส ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. ถึง 31 ธ.ค. 68 ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ส่วนกรณีที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ สิทธิในโครงการของรัฐก็ยังคงอยู่ครบถ้วน ขอแค่ดำเนินการตามขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วยเบอร์ใหม่และบัตรประชาชนเดิมให้ถูกต้องเท่านั้นเอง