เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 3.75%-4.00% พาวเวลย้ำยังไม่แน่ใจจะลดอีกในเดือนธ.ค. 68 พร้อมจับตาเศรษฐกิจ-ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อย่างระมัดระวัง
ธนาคารกลางสหรัฐฯ เฟด มีมติลดอัตราดอกเบี้ย ระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.75%-4.00% หลังการประชุม FOMC วันที่ 29 ตุลาคม โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวล แถลงภายหลังว่า แม้จะมีการปรับลดในรอบนี้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีกหรือไม่ในเดือนธันวาคม เนื่องจากยังต้องประเมินข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเพิ่มเติม
เฟดส่งสัญญาณระมัดระวัง ดอกเบี้ยเดือนธ.ค.ยังไม่แน่นอน
พาวเวลระบุว่า คณะกรรมการเฟดยังมีความเห็นแตกต่างกันต่อทิศทางดอกเบี้ย โดยย้ำว่า “ยังห่างไกลจากความแน่นอน” ว่าจะมีการปรับลดอีกในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ เฟดจะใช้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และรายงาน Beige Book เพื่อประเมินภาพรวมก่อนตัดสินใจครั้งถัดไป
ประเด็นสำคัญจากคำแถลงของพาวเวล
- เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะไม่แน่นอนสูง
- ตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแอลงจากการเลิกจ้างในภาคเทคโนโลยี
- เฟดติดตามผลกระทบจาก AI ต่อโครงสร้างการจ้างงาน
- หากไม่รวมภาษีศุลกากร อัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ใกล้เป้าหมาย 2%
ตลาดแรงงานและ AI ถูกจับตาใกล้ชิด
เฟดมองว่าตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัว โดยหลายบริษัทในสหรัฐฯ ลดการจ้างงานหรือปรับโครงสร้างเพื่อตอบรับเทคโนโลยี AI ขณะเดียวกัน พาวเวลระบุว่า การลงทุนในศูนย์ข้อมูล AI จะไม่ถูกกระทบจากอัตราดอกเบี้ย เพราะเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ระยะยาวมากกว่า
สรุป
เฟดปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ถือเป็นสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะดำเนินการต่อในเดือนธันวาคม ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางและแรงกดดันจากตลาดแรงงานที่อ่อนแรงลง ซึ่งเฟดยังคงเน้น “ระมัดระวังและยืดหยุ่น” เป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจ