ทิศทางราคาทองคำโลกเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง หลังจากมีสัญญาณบวกจากฝั่งนโยบายการเงินของสหรัฐฯ โดยเฉพาะความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มองเห็นโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความต้องการถือครองทองคำปรับตัวสูงขึ้นทันที
วิเคราะห์ปัจจัยหนุน ราคาทองโลก และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาทองในรอบนี้มาจากคำแถลงของ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด ที่ระบุว่าเฟดยังมีช่องว่างในการลดดอกเบี้ยลงได้อีกราว 0.5% – 1.00% เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงตามเป้าหมาย สอดคล้องกับผลสำรวจจาก NACE ที่สะท้อนว่าตลาดแรงงานสำหรับบัณฑิตจบใหม่ในปี 2026 เริ่มมีความน่ากังวล โดยนายจ้างส่วนใหญ่ทำได้เพียงแค่รักษาระดับพนักงานเดิมไว้เท่านั้น ไม่ได้มีการจ้างงานเพิ่มอย่างคึกคักเหมือนช่วงก่อน
แม้ว่าดัชนีดอลลาร์ (DXY) จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 98.39 หน่วย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) 10 ปี จะทรงตัวอยู่ที่ 4.15% แต่ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญ โดยเฉพาะแผนการที่สหรัฐฯ เตรียมคว่ำบาตรอุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซียเพิ่มเติม เพื่อกดดันให้เกิดการเจรจาสันติภาพกับยูเครน ซึ่งประเด็นนี้สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดการเงินโลก
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทองคำ:
- ผู้ว่าการเฟดมองดอกเบี้ยที่เหมาะสมควรลดลงอีก เพื่อรับมือตลาดแรงงานที่อ่อนแอ
- ผลสำรวจนายจ้างชี้ ตลาดงานบัณฑิตจบใหม่ปี 2026 อยู่ในเกณฑ์ “แย่” ถึง “พอใช้”
- กองทุนทองคำโลก SPDR เริ่มกลับมาเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 0.85 ตัน รวมถือครองสุทธิ 1,052.54 ตัน
สรุป: ภาพรวม ราคาทองวันนี้ยังคงได้ปัจจัยหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยขาลงของเฟดและความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศ แม้ค่าเงินดอลลาร์จะมีการแข็งค่าสลับมาบ้าง แต่การที่กองทุนใหญ่อย่าง SPDR เริ่มเก็บทองคำเพิ่ม สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกในระยะยาวที่นักลงทุนควรเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด